วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

โครงการเพาะเห็ดนางฟ้า


โครงการเพาะเห็ดนางฟ้า

  การเพาะเห็ดนางฟ้า เป็นการฝึกให้นักเรียน ได้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการดูแลรักษา การปฏิบัติในการเพาะเห็ด การเก็บผลผลิต ซึ่งเป็นวิธีการเรียนรู้โดย

การเพาะเห็ดนางฟ้า  เป็นการฝึกให้นักเรียน ได้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการดูแลรักษา การปฏิบัติในการเพาะเห็ด  การเก็บผลผลิต  ซึ่งเป็นวิธีการเรียนรู้โดยฝึกปฏิบัติจริง ฝึกให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ  เห็นคุณค่าของงานอาชีพที่สุจริต  เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปพัฒนาการประกอบอาชีพหรือรายได้เสริมและยังเกิดความภาคภูมิใจกับผลผลิตได้รับผลผลิตจากการปฏิบัติสามารถนำไปสนับสนุนกิจกรรมโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน   เพื่อแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการ



จิตสาธารณะ

จิตสาธารณะคืออะไร
  จิตสาธารณะ (Public mind, Public consciousness) คือ ความรู้สึกของบุคคลที่มองเห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม แล้วรู้สึกอยากเข้าไปมีส่วนในการช่วยเหลือสังคมในเรื่องต่างๆ ที่เป็นปัญหา หรือเกิดความเดือดร้อน โดยรู้ถึงสิทธิและหน้าที่ในความรับผิดชอบ พร้อมลงมือปฏิบัติร่วมช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้แก่สังคมของเราร่วมกับผู้อื่น หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นน้ำใจของคนที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกันในสังคมด้วยความเต็มใจโดยไม่หวังผลใดๆ ตอบแทนนั่นเอง
ข้อดีของการมีจิตสาธารณะคืออะไร?
ทำให้เป็นคนคิดบวก มองผู้อื่นในแง่ที่ดี ไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น
ทำให้เราเป็นคนที่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้เป็นอย่างดี และปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้ดี
ทำให้เป็นที่รักใคร่จากผู้คนรอบข้าง และได้รับความเมตตา
ทำให้เป็นคนไม่เห็นแก่ตัว คิดถึงส่วนรวมเป็นหลักมากกว่าประโยชน์ส่วนตน
ทำให้เป็นคนเข้าใจผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
ซึ่งการมีจิตสาธารณะนี้หากเราเริ่มปลูกฝังกันตั้งแต่เด็ก ก็จะทำให้เด็กสามารถเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคมได้ดี โดยพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถฝึกให้เด็กเริ่มเรียนรู้จากการมีระเบียบวินัย รับผิดชอบต่อตนเอง เรียกว่าเริ่มกันตั้งแต่สิ่งเล็กน้อยใกล้ๆ ตัว ทำให้เด็กค่อยๆ รู้จักการเรียนรู้จากสิ่งที่เรียกว่ากฎของธรรมชาติการอยู่ร่วมกันที่ผ่านการสอนและฝึกฝนมาจากตนเองและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง



เข้าค่ายลูกเสือ


เข้าค่ายลูกเสือ


   สำหรับฉันแล้วความรู้สึกในค่ายลูกเสือนั้นโหดมาก ฉันไม่เคยถูกทำโทษโดยการหมอบและกลิ้งขนาดนี้
เลย ค่ายลูกเสือทำให้เรารู้ว่าความสามัคคีในหมู่คณะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ 
ในสังคมอีกอย่างหนึ่ง  ผิดเพียงคนเดียวโดนทำโทษยกกอง
 และก็ขอบคุณความรู้สึกดีดีที่มีให้กันมิตรภาพ จากโรงเรียนตราดสรรเสริญ
จบแล้วสินะค่ายลูกเสือตราดสรรเสริญ



วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ขนมลูกชุบ

ขนมลูกชุบ
ขั้นตอนการทำขนมลูกชุบ

เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* ถั่วเขียว 450 กรัม
* น้ำตาลทราย 200 กรัม (สำหรับผสมถั่ว)
* น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำน้ำวุ้น)
* น้ำกะทิ 400 กรัม
* วุ้นผง 3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำวุ้น)
* สีผสมอาหาร (อย่างน้อยแม่สี 3 สี : สีแดง, สีเหลืองและน้ำเงิน), จานสีและพู่กัน
* ไม้จิ้มฟัน (สำหรับเสียบถั่วที่ปั้นแล้วเพื่อแต่งสีและจิ้มลงในน้ำวุ้น)
* โฟม (สำหรับเสียบถั่วปั้นระหว่างทำ ถ้าวางบนพื้นจะเสียทรง)

วิธีทำทีละขั้นตอน

ขนมหวานไทย : ลูกชุบ (Green Peanut in Jelly)
1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทำความสะอาด และแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจึงนำไปนึ่งให้สุก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)

2. เมื่อถั่วเขียวสุกดีแล้ว ให้นำไปใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้า พร้อมกับน้ำตาลทรายและน้ำกะทิ ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี

3. จากนั้นจึงเทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลือง (หรือกระทะเคลือบเทฟลอนก็ได้)และตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาที) จึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น (ถั่วต้องแห้ง มิเช่นนั้นจะไม่สามารถนำไปปั้นได้)

4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงปั้นให้เป็นรูปทรงตามใจชอบ (ผัก, ผลไม้หรือสัตว์น่ารักๆ) เมื่อปั้นเสร็จให้เสียบไม้จิ้มฟันรอไว้ ควรปั้นส่วนผสมทั้งหมดให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ถั่วที่ปั้นเสร็จแล้วควรห่อไว้ด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ

5. ผสมสีผสมอาหารตามต้องการ แล้วจึงบรรจงแต่งสีลงบนถั่วปั้นให้เหมือนจริง หรือตามแต่ความชอบ

6. ทำน้ำวุ้นโดยผสมน้ำเปล่า, ผงวุ้นและน้ำตาล ลงในหม้อ นำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง หมั่นคนอย่างสม่ำเสมอ รอจนส่วนผสมเดือด ช้อนฟองที่ลอยหน้าออก จึงหรี่ไฟลง

7. นำถั่วปั้นที่แต่งสีแล้วไปชุบในน้ำวุ้น ควรชุบประมาณ 2 - 3 ครั้ง ระหว่างชุบวุ้นต้องอุ่นน้ำวุ้นด้วยไฟอ่อนเพื่อไม่ให้วุ้นแข็ง ถ้าไม่พอก็ผสมน้ำวุ้นขึ้นใหม่ตามอัตราส่วนข้างต้น

8. นำลูกชุบออกจากไม้ิจิ้มฟัน ตัดแต่งเศษวุ้นส่วนเกินออกด้วยกรรไกร จัดใส่จาน เสริฟเป็นของว่างในวันสบายๆได้ทันที  

ที่มา : http://www.ezythaicooking.com/free_dessert_recipes/Green_peanut_in_jelly_th.html

ข้าวเหนียวสังขยา

ข้าวเหนียวสังขยา
ขั้นตอนการทำข้าวเหนียวสังขย

ส่วนผสม สังขยาไข่

 ไข่เป็ด 3 ฟอง   กะทิ 1/2 กระป๋อง   ใบเตย 3-4 ใบ    น้ำตาลปึก 4 ก้อน

ส่วนผสม ข้าวเหนียวมูน

ข้าวเหนียวเขี้ยวงู   กะทิ    สารส้ม   น้ำตาลทราย   เกลือป่น    ใบเตย

วิธีทำสังขยาไข่

1. ตอกไข่และน้ำตาลปึกใส่ชาม ใส่ใบเตยลงไป ใช้มือขยำให้น้ำตาลละลาย โดยใช้ใบเตยช่วย (สวมมือ

ลงในถุงพลาสติกขณะขยำ)

2. เติมกะทิ คนให้เข้ากัน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางใส่ในถ้วย ชาม หรือถาดก้นลึก

3. นำขึ้นนึ่งในหม้อน้ำเดือด ใช้ไฟแรงเปิดฝาขณะนึ่งจนสุกใช้ เวลาประมาณ 45 นาที (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับขนาดของภาชนะ) เสิร์ฟกับข้าวเหนียวมูน

วิธีทำข้าวเหนียวมูน

1. แช่ข้าวเหนียวในน้ำกวนสารส้ม 5 นาที แล้วเทน้ำออก จากนั้นแช่น้ำทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง หรือแช่ค้างคืน 

ทั้งนี้ หากอยากได้ข้าวเหนียวสีสันต่าง ๆ ให้ผสมสีผสมอาหาร หรือสีจากธรรมชาติลงไปในน้ำด้วย
2. เมื่อครบเวลาให้เทน้ำออกแล้วนำเข้าเหนียวไปนึ่ง ตั้งไฟแรงจนสุก พักไว้
3. ตั้งหม้อใส่กะทิ น้ำตาลทราย เกลือป่น และใบเตยลงไป ต้มพอเดือด นำไปเทใส่ข้าวเหนียว แล้วคนกันให้ทั่ว ปิดฝาพักไว้ประมาณ 10-15 นาที และคนข้าวเหนียวอีกครั้ง
4. ตักข้าวเหนียวใส่จาน เสิร์ฟพร้อมสังขยา



ที่มา:   http://cooking.kapook.com/view131103.html









วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ขนมทองหยิบ

ขนมทองหยิบ
ขั้นตอนการทำขนมทองหยิบ


เครื่องปรุง+ส่วนผสม
* ไข่เป็ด 8 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง)
 * น้ำเปล่า 6 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
 (เคล็ดลับ : อัตราส่วนมาตรฐานทั่วไปน้ำ 1 ส่วน : น้ำตาล 1/2 ส่วน)

วิธีทำ
1. ผสมน้ำเปล่าและน้ำตาลทรายลงในกระทะทองเหลือง นำไปตั้งบนไฟอ่อนจนละลายปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็นนำไปกรองด้วย ผ้าขาวบางหนึ่งครั้ง

2. นำน้ำเชื่อมที่กรองแล้วไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง กะพอให้น้ำเชื่อมร้อนจัดแต่ไม่ให้เดือดพล่าน

3. ใส่ไข่แดงลงในถ้วย ตีจนขึ้นฟู เมื่อน้ำเชื่อมร้อนได้ที่ ใช้ช้อนตักไข่แดงที่ตีจนฟู หยอดลงในน้ำเชื่อม ไข่จะแผ่เป็นวงกลม ใช้ช้อนกลับหน้าสักครั้งเพื่อให้สุกทั่วทั้งสองด้าน จากนั้นจึงตักขึ้น


4. รอจนหายร้อน จึงจับจีบโดยใช้นิ้วมือหยิบ 5 หยิบแล้วใส่ลงในถ้วยตะไลหรือแบบพิมพ์ที่เตรียมไว้

ที่มา: http://www.ezythaicooking.com/free_dessert_recipes/Thai_dessert_kanom_Tong_Yib_th.html

ขนมบัวลอยไข่หวาน

ขนมบัวลอยไข่หวาน

ขั้นตอนการทำขนมบัวลอยไข่หวาน

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

+ส่วนผสมบัวลอย+
* แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
* เผือกนึ่งสุกบดละเอียด 1 ถ้วยตวง (กรณีต้องการบัวลอยหลายสีสามารถเลือกใช้ฟักทอง เพื่อทำบัวลอยสีเหลือง, ใบเตย เพื่อทำบัวลอยสีเขียว, อื่นๆ)
* น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง

+ส่วนผสมน้ำกะทิ+
* กะทิ 2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลมะพร้าว 100 กรัม
* น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
* เกลือป่น 1 ช้อนชา
* เนื้อมะพร้าวอ่อน, ไข่ (จะมีหรือไม่มีก็ได้)
* งาขาว (สำหรับแต่งหน้า จะมีหรือไม่มีก็ได้)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ทำบัวลอยโดยผสมแป้งข้าวเหนียว, เผือกนึ่งและน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน นวดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ระหว่างปั้นนั้น ควรโรยด้วยเศษแป้งข้าวเหนียวเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกบัวลอยติดกัน (ถ้าต้องการทำบัวลอยหลายสีก็ใช้ส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นฟักทองสำหรับสีเหลือง หรือใบเตยสำหรับสีเขียว เป็นต้น)

2. ต้มน้ำในหม้อขนาดกลาง รอจนเดือดจึงใส่ลูกบัวลอยที่ปั้นไว้แล้ว เมื่อบัวลอยสุกให้นำออกมาแช่ในน้ำเย็น (บัวลอยที่สุกแล้วจะลอยขึ้น)

3. ทำน้ำกะทิโดยผสม กะทิ, น้ำตาลมะพร้าว, น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป ควรใส่น้ำตาลทรายแค่ครึ่งเดียวก่อน ถ้ายังหวานไม่พอจึงค่อยใส่เพิ่มลงไป ต้มจนเดือด จึงหรี่ไฟลง นำบัวลอยที่ต้มไว้แล้วใส่ลงไปในน้ำกะทิ ต้มต่ออีกสักพักจึงปิดไฟ ถ้ามีมะพร้าวอ่อนก็ใส่ได้เลย พร้อมลูกบัวลอย (กรณีต้องการทำบัวลอยไข่หวาน ก็ตอกไข่ใส่ไปในหม้อหลังจากที่ใส่บัวลอยลงไป รอจนไข่สุกจึงปิดไฟ)


4. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยงาขาว เสิร์ฟขณะร้อนหรือรอให้เย็นก็ได้


ที่มา: http://www.ezythaicooking.com/free_dessert_recipes/Thai_dumplings_in_coconut_cream_th.html